หน่อไม้ฝรั่งเป็นพืชผักชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเป็นต้นเรียวแหลม มีรากและลำต้นอยู่ใต้ดิน นิยมนำมาปรุงสุกรับประทาน นำไปประกอบอาหารหรือผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่าง ๆ ในบางวัฒนธรรมก็ประยุกต์นำหน่อไม้ฝรั่งไปสกัดเป็นยารักษาอาการหรือบำรุงสุขภาพตามความเชื่อ เนื่องจากหน่อไม้ฝรั่งมีสารอาหารสำคัญทางโภชนาการ ที่อาจเป็นผลดีและมีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ
เช่น เส้นใยอาหาร กรดโฟลิก วิตามินบี6 วิตามินเค วิตามินซี วิตามินอี โพแทสเซียม รวมทั้งแร่ธาตุและสารเคมีอื่น ๆ อีกมากมาย ในขณะที่มีไขมัน คอเลสตอรอล และแคลอรี่ต่ำ แต่การบริโภคหน่อไม้ฝรั่ง ก็อาจทำให้เกิดกลิ่นฉุนในปัสสาวะ มีกลิ่นตัว และอาจส่งผลข้างเคียงอื่น ๆ ได้ด้วยเช่นกัน หน่อไม้ฝรั่งเป็นพืชผักชนิดหนึ่งที่อุดมไปด้วยสารอาหารหลายชนิดที่อาจเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ในปัจจุบัน จึงมีการศึกษาค้นคว้ามากมายที่พยายามพิสูจน์สมมติฐานและความเชื่อเกี่ยวกับคุณค่าทางโภชนาการจากการบริโภคหน่อไม้ฝรั่ง รวมทั้งผลข้างเคียงจากการบริโภคที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังตัวอย่างแนวคิดและการทดลองดังต่อไปนี้มะเร็งเป็นโรคร้ายซึ่งเกิดจากความผิดปกติของเซลล์เนื้อเยื่อที่แบ่งตัวผิดปกติ เนื่องจากในหน่อไม้ฝรั่งมีสารต้านอนุมูลอิสระบางชนิด เช่น สารสเตียรอยด์ซาโปนิน ซึ่งเชื่อกันว่าสารอนุมูลอิสระอาจมีฤทธิ์ต้านการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ จึงมีงานทดลองหนึ่งที่ค้นคว้าหาประสิทธิภาพของการรักษาโรคมะเร็งด้วยการประยุกต์ใช้สมุนไพรจีนหลากชนิดที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงรากของหน่อไม้ฝรั่งด้วย การทดลองถูกออกแบบมาให้ผู้ป่วยมะเร็งปอดระยะลุกลามจำนวน 60 ราย แบ่งเป็น 3 กลุ่มทดลอง โดยกลุ่มแรกให้ผู้ป่วยรับการรักษาด้วยยาสูตรสมุนไพรจีนที่มีส่วนประกอบของรากหน่อไม้ฝรั่ง กลุ่มที่สองให้ผู้ป่วยรับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด และกลุ่มสุดท้ายให้ผู้ป่วยรับการรักษาด้วยยาสูตรสมุนไพรจีนร่วมกับยาเคมีบำบัด ผลการทดลองปรากฏว่า การรักษาผู้ป่วยมะเร็งกลุ่มแรกที่ได้รับการรักษาด้วยยาสูตรสมุนไพรจีนซึ่งมีส่วนประกอบของรากหน่อไม้ฝรั่งมีประสิทธิผลทางการรักษากลุ่มอาการขาดพลังงานลมปราณชี่หยินตามความเชื่อของแพทย์แผนจีนของผู้ป่วยมะเร็งปอดในระยะลุกลามสูงกว่ากลุ่มอื่นอย่างมีนัยสำคัญ และสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้อาจช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันร่างกายให้ช่วยกำจัดเซลล์มะเร็งออกไป